หลากหลายปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจของคุณในการรับเลี้ยงลูกแมวหรือแมวโตเต็มวัย ซึ่งทั้ง 2 แบบก็มีข้อดีต่างกัน การหาข้อมูลก่อนตัดสินใจจะช่วยให้มั่นใจว่าสัตว์เลี้ยงของคุณจะกลายเป็นสมาชิกของครอบครับที่มีความสุขและปรับตัวได้ดี
ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด เมื่อพูดถึงการตัดสินใจว่าจะเลี้ยงลูกแมวหรือแมวโตเต็มวัย สิ่งสำคัญคือคุณต้องหาข้อมูลก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม สอบถามผู้เพาะพันธุ์หรือสถานพักพิงที่สามารถให้ข้อมูลและคำแนะนำแก่คุณ
มีหลายสิ่งที่ต้องตัดสินใจ เช่น คุณต้องการแมวสายพันธุ์แท้หรือไม่ หรือคุณมีเวลาฝึกหัดการอยู่บ้านให้กับลูกแมวหรือไม่ ซึ่ง 2 ข้อนี้มีผลต่อการตัดสินใจอย่างมาก
การรับเลี้ยงแมวโตเต็มวัย
ในขณะที่คนส่วนใหญ่คิดถึงการรับเลี้ยงลูกแมวเมื่อพวกเขาตัดสินใจที่จะให้แมวมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่การรับเลี้ยงแมวโตเต็มวัยก็มีประโยชน์มากมายเช่นกัน สถานพักพิงทั่วประเทศเต็มไปด้วยแมวทุกวัยที่กำลังมองหาบ้านใหม่ ซึ่งแมวบางตัวเป็นสายพันธุ์แท้
ข้อดีของการรับเลี้ยงแมวโตเต็มวัย
- การรับเลี้ยงแมวโตเต็มวัยเป็นทางเลือกที่มีคุณค่ามาก เพราะเป็นการช่วยให้แมวที่รับมาเลี้ยงมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- คุณจะสามารถเลือกแมวที่มีลักษณะ อายุ และพฤติกรรมได้ตามความต้องการ
- พนักงานของสถานพักพิงจะรู้จักแมวแต่ละตัวเป็นอย่างดีและช่วยคุณเลือกสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสำหรับคุณ
- แมวโตเต็มวัยมักจะได้รับการฝึกฝนให้ใช้กระบะทรายได้แล้ว
- แมวช่วงโตเต็มวัยมักจะเรียบร้อยกว่าช่วงลูกแมว
- ปกติแล้วแมวในสถานพักพิงจะได้รับการถ่ายพยาธิซึ่งตรวจโดยสัตวแพทย์ บางครั้งอาจจะได้รับการฉีดวัคซีนและทำหมันเรียบร้อยแล้ว
- แมวโตเต็มวัยอาจมีลักษณะทางพฤติกรรมและทางอารมณ์ที่เด่นชัด ดังนั้นคุณควรเลือกแมวที่มีลักษณะพฤติกรรมตามที่คุณต้องการ
ความท้าทายในการรับเลี้ยงแมวโตเต็มวัย
- แมวหาบ้านหลายตัวมีประวัติไม่ชัดเจน และบางตัวอาจต้องมีการดูแลเป็นพิเศษในการปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่
- แมวโตเต็มวัยอาจมีพฤติกรรมประจำตัวอยู่แล้วและปรับเปลี่ยนได้ยาก
- ช่วงเวลาการหัดเข้าสังคมของแมวโตเต็มวัยอาจผ่านไปแล้ว แต่ก็ยังสามารถฝึก และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้บ้าง
สถานที่ที่จะไปรับแมวมาเลี้ยง
มีสถานที่หลายแห่งที่คุณสามารถรับอุปการะแมว อย่างไรก็ตาม สถานพักพิงเป็นสถานที่ที่มีแมวมากที่สุด เมื่อเลือกสถานพักพิง สิ่งสำคัญคือคุณควรเยี่ยมชมและถามคำเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยง การดูแล และสุขอนามัยของแมว
สถานพักพิงที่ดีจะพยายามให้แมวเข้าสังคม และให้แมวคุ้นเคยกับคนและการใช้ชีวิตแบบมีเจ้าของ
สถานที่อื่นๆ ที่คุณอาจช่วยเหลือแมวประกอบด้วย:
- เพื่อน เพื่อนบ้าน หรือคนรู้จักอาจมีแมวที่ไม่สามารถดูแลได้
- สัตวแพทย์ในพื้นที่ของคุณ ควรสอบถามสัตวแพทย์ในพื้นที่ของคุณเพราะโดยส่วนใหญ่มักจะมีคนพาแมวและลูกแมวที่ไม่ต้องการหรือถูกทอดทิ้งไปหาสัตวแพทย์
การเลือกลูกแมว
สำหรับหลายๆ คน แมวที่สมบูรณ์แบบหมายถึงแมวที่มีสายพันธุ์พิเศษ และการเลือกรับเลี้ยงลูกแมวแทนที่จะเลือกแมวโตเต็มวัยอาจเป็นวิธีที่เหมาะสมเพื่อะช่วยให้คุณได้แมวตามที่ต้องการ
แมวมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์ล้วนมีลักษณะทางกายภาพและพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น คุณจึงควรทำการศึกษาและเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ
ผู้เพาะพันธุ์ที่มีความรับผิดชอบและมีใบรับรองสายพันธุ์ส่วนใหญ่จะไม่ยอมให้ลูกแมวย้ายออกไปอยู่บ้านใหม่หรือแยกจากแม่แมวจนกว่าจะมีอายุ 12 สัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกแมวมีความพร้อมในการแยกไปอยู่ที่อื่นและได้รับวัคซีนที่เหมาะสมแล้ว ซึ่งช่วงเวลาสำคัญของการเข้าสังคมสำหรับลูกแมวก็เกิดขึ้นภายในระยะเวลาดังกล่าวเช่นกัน ดังนั้นคุณจำเป็นที่จะต้องสอบถามทางผู้เพาะพันธุ์เกี่ยวกับดูแล และรายละเอียดด้านพัฒนาการของลูกแมวว่าเป็นอย่างไรบ้าง
คุณอาจรับลูกแมวจากสถานพักพิงมาเลี้ยงก็ได้เช่นกัน ในกรณีนี้ การระบุสายพันธุ์ของพ่อแม่แมวอาจทำได้ยากกว่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของสถานพักพิงอาจพอดูออกว่าลูกแมวมีลักษณะของสายพันธุ์ใด และอาจช่วยคุณเลือกตัวที่น่าจะเหมาะกับสภาพแวดล้อมภายในบ้านของคุณมากที่สุดได้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่อาจมองออกว่าลูกแมวมีลักษณะของสายพันธุ์อะไร แต่หลายครั้งก็อาจต้องเสี่ยงดวง อย่างไรก็ตาม คนรักแมวหลายต่อหลายคนต่างบอกว่าการเสี่ยงดวงนี่ล่ะที่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง
ข้อดีในการรับลูกแมวมาเลี้ยง
- ลูกแมวมีนิสัยขี้เล่นและร่าเริงมาก ทำให้บ้านมีความสนุกสนานเพิ่มมากขึ้น
- คุณมักจะสามารถเลือกสายพันธุ์ที่ต้องการได้
- คุณสามารถรับประวัติทางการแพทย์ทั้งหมดได้จากผู้เพาะพันธุ์สัตว์
ความท้าทายในการรับลูกแมวมาเลี้ยง
- ลูกแมวจะยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มากเท่ากับแมวโตเต็มวัย
- สำหรับลูกแมว คุณจะต้องใช้เวลาในการฝึกลูกแมวที่บ้าน
จะรับลูกแมวมาเลี้ยงได้จากที่ไหน
มีสถานที่มากมายที่คุณสามารถรับลูกแมวมาเลี้ยงได้ ไม่ว่าจะมาจากผู้เพาะพันธุ์สัตว์ที่ลงทะเบียนแล้ว สถานพักพิง หรือครอบครัวที่ยินดีให้ลูกแมวมาเลี้ยง สิ่งสำคัญคือลูกแมวและแม่แมวจะต้องมีสุขภาพดีและได้รับการดูแลอย่างดีก่อนที่คุณจะรับลูกแมวไปเลี้ยงที่บ้าน
ขอแนะนำให้คุณติดต่อผู้เพาะพันธุ์สัตว์หรือผู้ขายสัตว์เลี้ยงที่น่าเชื่อถือ คุณอาจเลือกปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับผู้เพาะพันธุ์สัตว์หรือสถานพักพิงที่อยู่ละแวกใกล้เคียง
- หากคุณเลือกสายพันธุ์และผู้เพาะพันธุ์หรือครอบครัวเจ้าของลูกแมวได้แล้ว ควรเข้าไปติดต่อเพื่อสังเกตสภาพแวดล้อมที่เลี้ยงลูกแมว
- ลูกแมวที่เกิดในบ้านที่มีผู้คนรายล้อมมากมายและเคยได้สัมผัสกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวันในบ้าน เช่น แขกที่มาเยี่ยมบ้าน เครื่องดูดฝุ่น เครื่องซักผ้า และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ จะสามารถปรับตัวเข้ากับบ้านของคุณได้ง่ายมากกว่าลูกแมวที่ถูกเลี้ยงนอกบ้านหรือไม่ค่อยได้เจอผู้คนอย่างมาก
- ถ้าเป็นไปได้ ให้สอบถามเกี่ยวกับอารมณ์ของพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ และวิธีการที่พวกเขาใช้สอนลูกแมว รวมถึงความใส่ใจของพวกเขาในเรื่องสุขอนามัย การดูแลสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี และโภชนาการที่ดีของลูกแมวด้วย
ไม่ว่าคุณจะเลือกเลี้ยงลูกแมวหรือแมวโตเต็มวัย การศึกษาข้อมูลอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณจะมีความสุขเมื่อมาอยู่กับคุณ และคุณจะเป็นเจ้าของที่มีความรับผิดชอบและเอาใจใส่ต่อสัตว์เลี้ยง
